โรงงานรัตนโกสินทร์เครื่องเคลือบดินเผากำเนิดโรงงาน
โรงงานรัตนโกสินทร์ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.
2515 โดย คุณรัตนชัย โฆษะบดี เป็นผู้ก่อตั้งและบริหารงาน ปัจจุบันนี้บุตรธิดาเป็นผู้บริหารงานแทน
ซึ่งเนื้อที่เดิมที่เริ่มก่อตั้งนั้นมีเพียง 7 ไร่
แต่ปัจจุบันได้ขยายกิจการออกเป็นถึง 22 ไร่แล้ว
เริ่มกระบวนการผลิต
1. การเตรียมดิน เราจะนำดินที่เก็บไว้นำไปใส่ในบ่อหมัก
แล้วเปิดน้ำใส่ให้เต็มทิ้งไว้ 3 วัน 3 คืน โดยใส่ทรายลงไปผสมด้วยประมาณ 1-2 % หลังจากครบกำหนดแล้วนำน้ำออกแล้วนำดินนั้นขึ้นจากบ่อหมัก
ดินที่ใช้จะเป็นดินเหนียวสีแดง เป็นดินท้องนาที่ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ ดังนั้น ในอดีต ปู่ ย่า ตา ยาย จึงนำดินชนิดมาเพื่อสร้างรายได้สู่ครอบครัวโดยนำดินมาปั้นไหน้ำปลาไหดองหน่อไม้เปรี้ยว
เนื่องจากสมัยโบราณจะหมักน้ำปลาเอง ดองหน่อไม้ไว้ขาย หรือไว้รับประทานเอง จากนั้นมีการวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน
แหล่งดิน
1. ดินที่ใช้อยู่เป็นดินท้องนา ก่อนที่จะนำมาใช้จะต้องลอกหน้าดินออกก่อนประมาณ
1-1.5 เมตร แล้วนำมาตรวจสอบว่ามีคุณสมบัติพร้อมที่จะนำมาใช้งานได้หรือไม่
2. แหล่งดินอยู่ที่ตำบลหลุมดิน
ห่างจากโรงงานประมาณ 7-8 กม.
3.
เมื่อได้ดินที่ต้องการแล้วจะขุดดินนำมาเก็บไว้เพื่อให้ใช้ได้ทั้งปี
โดยจะดำเนินการเก็บดินไว้ในช่วง เมษายน-พฤษภาคม
ดินที่เก็บไว้ด้านหลังของโรงงานเพื่อให้เพียงพอต่อการผลิตโอ่งทั้งปี
2. การโม่หรือกวนดินเมื่อเสร็จขั้นตอนการเตรียมดินแล้วก้อจะนำดินใส่ถังกวนหรือเครื่องโมจุดประสงค์ในการโม่
2.1 ทำให้ดินแตกย่อย
2.2 ทำให้ดินมีความเหนียวเพิ่มขึ้น
2.3 ทำให้ดินเป็นเนื้อเดียวกัน
3. การขึ้นรูปจะต้องขึ้นเป็นตอนๆ ชิ้นงานที่มีขนาดเล็ก
เช่น กระถางก็จะขึ้นเป็น 2 ตอน แต่ถ้าเป็นโอ่งใบใหญ่ก็จะขึ้นเป็น 3 ตอน
การขึ้นรูปของโรงงานเราจะมี 2 วิธีคือ
3.1 วิธีแป้นหมุน การขึ้นรูปชนิดนี้อาศัยความชำนาญของช่าง
แรงเหวียงของแป้นหมุน (ซึ่งขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์)
ช่างจะดึงดินให้ได้รูปทรงตามความต้องการ
3.2 วิธีขด (ทำให้ดินเป็นเส้นกลมๆ) วิธีนี้แตกต่างกับวิธีแป้นหมุนคือ
ชิ้นงานอยู่กับที่แต่ช่างจะหมุนไปรอบๆ ชิ้นงานการขึ้นรูปวิธีนี้จะใช้ขึ้นกับชิ้นงานใหญ่ๆ
และขึ้นเป็นตอนๆ เหมือนกัน
วิธีแต่ง (ตีโอ่ง)
จะมีอุปกรณ์ในการตีโอ่ง 2 ชิ้นคือ
ไม้ตีและไม้รอง
จุดประสงค์ในการแต่ง
1.จะทำให้รอยต่อ ติดต่อกันสนิทยิ่งขึ้น
2. เก็บรอยนิ้วมือของช่างปั้น
3. ได้รูปทรงตามต้องการ
4. การติดลาย ลายประจำจังหวัดราชบุรีคือ ลายมังกร ส่วนดินที่ใช้ติดลายนั้นเป็นดินที่ได้มาจากจังหวัดสุราษฏร์ธานีผสมกับดินราชบุรี
การติดลายก็เพื่อทำให้โอ่งมีสีสันสวยงามมากขึ้น
5. การเคลือบ
หลังจากติดลายแล้วก็จะนำไปเคลือบ
น้ำเคลือบนั้นจะเป็นน้ำเคลือบพื้นเมืองซึ้งได้มาจากขี้เถ้าผสมกับขี้เลน
โดยมีอัตราส่วนที่เหมาะสมกัน
6. การเผาโอ่งหลังจากเคลือบแล้วต้องทิ้งไว้ให้แห่งสนิทประมาณ 7-10 วันแล้วนำเข้าเตาเผา
อุณหภูมิที่ใช้ในการเผาประมาณ 1,150 องศาเซลเซียส
ระยะเวลาในการเผาประมาณ 32-36 ชม. เมื่อได้กำหนดระยะเวลาการเผาและทิ้งไว้ให้เย็นประมาณ 12 ชม. แล้วจึงจะนำออกจากเตาเผา
การคัดคุณภาพ
จะมีการคัดเป็นเกรด A,B,C โดยวิธีการเคาะแล้วฟังเสียงจากชิ้นงานได้ออกมาแล้ว
(ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ความชำนาญของช่างเป็นอย่างมาก)
หลังจากที่ปั้นโอ่งจนได้รูปทรงที่ต้องการแล้ว
ก็ต้องนำโอ่งไปผึ่งแดดให้แห้งเพื่อให้ดินจับตัวกันเพื่อตอนที่นำไปเผาโอ่งจะได้ไม่แตก
จากนั้นก็นำไปอบในเตาเผา เตาเผานั้นมีรูที่ให้ความร้อนทั้งหมด 72 รูยาวตลอดเตา
คำถาม
1.อะไรเป็นจุดดึงดูดที่ทำให้ชาวต่างชาติมาสั่งโอ่งในเมืองไทย
ตอบ เนื่องจากเครื่องปั้นดินเผาของไทย
มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่อื่น เพราะว่างานแต่ละชิ้นนั้นมีชิ้นเดียวในโลก
และมีลวดลายหลายแบบแตกต่างกันไป
ตัวอย่างภาพสินค้าที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว
ที่ตั้งโรงงานรัตนโกสินทร์เครื่องเคลือบดินเผา
124 หมู่ 4 ถนนเพชรเกษม ตำบลโคกหม้อ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี โทร.
032-321322 , 032-316788 , 032-316767 โทรสาร.
032-031323